การเช่ารถเที่ยวภูเก็ตเป็นตัวเลือกยอดฮิตของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ เพราะภูเก็ตมีสถานที่เที่ยวกระจายหลายอำเภอ การเดินทางด้วยรถเช่าทำให้สะดวกกว่า ไม่ต้องรอรถสองแถว และยังประหยัดเวลาได้มาก แต่คำถามคือ “ควรเลือกรถเช่าแบบไหน?” วันนี้เรามีบทความเปรียบเทียบให้เข้าใจง่าย เลือกได้ถูกต้อง ไม่พลาดรุ่นที่เหมาะกับแผนเที่ยวของคุณ
⭐ 1. เลือกจาก “ขนาดรถ – จำนวนผู้โดยสาร”
สิ่งแรกที่ต้องดูคือ จำนวนคนในทริป และ ปริมาณสัมภาระ เพราะมีผลต่อความสบายในการเดินทาง
🚗 รถเล็ก 4–5 ที่นั่ง
เหมาะสำหรับ: คู่รัก, เพื่อน 2–3 คน, ทริปเบา ๆ
ข้อดี:
- ประหยัดน้ำมัน
- คล่องตัวในเมืองและตรอกเล็ก ๆ ของภูเก็ต
- ราคาประหยัด (ร้านต้นรถเช่าภูเก็ต เริ่มต้นแค่ 550–599 บาท)
ข้อเสีย:
- พื้นที่เก็บของน้อย
- ไม่เหมาะกับเดินทางขึ้นเขาชันหลายคน
🚙 รถ 7 ที่นั่ง / SUV
เหมาะสำหรับ: ครอบครัวใหญ่, กลุ่มเพื่อน, มีสัมภาระเยอะ
ข้อดี:
- นั่งสบาย พื้นที่กว้าง
- เหมาะกับเดินทางทางไกล เช่น ภูเก็ต–พังงา–กระบี่
- เครื่องแรง ขับขึ้นเขาได้ดี
ข้อเสีย:
- ราคาสูงกว่า
- ใช้น้ำมันมากกว่า
- ขนาดใหญ่ อาจหาที่จอดยากในตัวเมือง
⚡ รถไฟฟ้า (EV)
เหมาะสำหรับ: นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่, เดินทางหลายวัน
ข้อดี:
- ประหยัดค่าน้ำมัน
- ขับนิ่ม เสียงเบา
- ชาร์จเต็มวิ่งได้ 430–500 กม. (เช่น BYD Dolphin, BYD Atto 3, JAC EV5)
ข้อเสีย:
- ต้องวางแผนจุดชาร์จ
- หากพักห่างตัวเมือง อาจต้องเช็กสถานีชาร์จล่วงหน้า
⭐ 2. เลือกจาก “งบประมาณ”
เรื่องราคาเป็นปัจจัยใหญ่ รถเช่าภูเก็ตแบ่งราคา 3 กลุ่ม
💰 รถราคาประหยัด (500–650 บาท/วัน)
เหมาะกับสายประหยัด เน้นขับในเมือง
เช่น: Vios / Yaris / Ativ / Attrage
💰💰 กลุ่มกลาง (800–1,000 บาท/วัน)
เหมาะกับครอบครัวเล็ก
เช่น: Sienta / Avanza / Veloz
💰💰💰 กลุ่มพรีเมียม (1,200–1,800 บาท/วัน)
เหมาะสำหรับการเดินทางไกลหรือทริปสบายเป็นพิเศษ
เช่น: Fortuner, MU-X
ร้านต้นรถเช่าภูเก็ตมีราคาโปร เช่น
- 5 วัน แถม 1 วัน
- รีวิว 4–5 ดาว ลด 100 บาท
- จองภายใน 1 ชม. ลด 100 บาท
ทำให้ราคาจริงถูกกว่าหลายร้านในภูเก็ต
⭐ 3. เลือกจาก “แผนเที่ยวที่วางไว้”
หากเที่ยวในเมือง – หาดป่าตอง – กะตะ – กะรน
รถเล็ก 4–5 ที่นั่งเพียงพอ ขับคล่องสุด
หากเที่ยวหลายจังหวัด เช่น พังงา / กระบี่
แนะนำรถ 7 ที่นั่ง หรือ SUV เครื่องยนต์ใหญ่กว่า
หากพักรีสอร์ทหรู มีที่จอดกว้าง
สามารถเลือกรถใหญ่ได้สะดวก ไม่ติดปัญหาที่จอด
หากต้องการประหยัดค่าน้ำมัน
รถไฟฟ้า (EV) ถือว่าคุ้มมาก โดยเฉพาะทริป 3–5 วันขึ้นไป
⭐ 4. เลือกจาก “ประกันรถเช่า”
หลายคนมองข้าม แต่ประกันสำคัญมาก
ประกันพื้นฐาน (มีทุกคัน)
คุ้มครองกรณีเกิดอุบัติเหตุ แต่ต้องมีใบตำรวจ
ประกันเสริม เพิ่มวันละ 200–300 บาท
เหมาะสำหรับคนที่ขับไม่ค่อยคล่อง
ช่วยลดความเสี่ยง / ลดค่าเสียหายเวลาเกิดเหตุ
ร้านต้นรถเช่าภูเก็ตมีให้เลือก
- รถ 5 ที่นั่ง → ประกันเสริม 200/วัน
- รถ 7 ที่นั่ง → 300/วัน
- มอเตอร์ไซค์ ไม่ขายประกันเสริม
⭐ 5. เลือกจาก “จุดรับ–ส่งรถ”
การรับ–ส่งมีผลต่อความสะดวกมาก
ร้านที่ดีต้องมี:
- รับ–ส่งสนามบินฟรี 24 ชั่วโมง
- ส่งรถถึงโรงแรมใกล้สนามบินได้
- ทำสัญญารวดเร็ว ไม่ยุ่งยาก
- ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
ร้านต้นรถเช่าภูเก็ต
- รับ–ส่งฟรีสนามบิน 24 ชม.
- ทำสัญญาที่ร้านตรงข้ามสนามบิน
- มีบริการรับลูกค้าที่ป่าตอง/ราไวย์/บางเทา (มีค่าบริการตามระยะทาง)
⭐ 6. เลือกจาก “รีวิวจริงของผู้ใช้”
ก่อนเช่าควรดูรีวิว Google Maps / Facebook
เพื่อเช็กว่า
- รถคันจริงตรงปกไหม
- การบริการดีหรือไม่
- มีปัญหาเรื่องมัดจำหรือไม่
- รถใหม่หรือเก่า
ร้านที่รีวิวเยอะ + รีวิวดี มักบริการจริงใจและดูแลดี เพราะต้องรักษาชื่อเสียง
ร้านต้นรถเช่าภูเก็ตมีรีวิว TikTok + Google Maps เยอะมาก เป็นข้อได้เปรียบ
🎯 บทสรุป: รถเช่าภูเก็ตแบบไหน “เหมาะกับคุณ”
| สถานการณ์ | รถที่ควรเลือก |
|---|---|
| เที่ยว 2–3 คน / ประหยัด | รถเล็ก Vios/Yaris |
| เที่ยวกับครอบครัว | Avanza / Veloz / Sienta |
| เที่ยวหลายจังหวัด | SUV 7 ที่นั่ง |
| ต้องการประหยัดน้ำมัน | รถไฟฟ้า BYD / JAC EV5 |
| มีของเยอะ / หลายกระเป๋า | SUV |
| ขับน้อยในเมือง | รถเล็กทั่วไป |
✨ ถ้าต้องการบทความเวอร์ชัน “ต้นรถเช่าภูเก็ต” พร้อมขายบริการด้วยไหมครับ?
เช่น
- ใส่ราคาจริงของร้าน
- ใส่รุ่นรถที่มีทั้งหมด
- ใส่จุดเด่นร้าน
- เขียนแบบเจ้าของร้านพูดกับลูกค้า
ผมทำให้ได้เลย บอกได้เลยว่าต้องการสไตล์ไหนครับ 😊




